Postpartum & Maternal Care

ภาพระยะใกล้ของหม้อดินเผาแบบไทยที่บรรจุเกลือเม็ดใหญ่ มีไอร้อนลอยขึ้น วางอยู่บนเตาถ่าน พร้อมสมุนไพรพื้นบ้านอยู่ด้านหลัง บรรยากาศอบอุ่นในสไตล์สปาไทย

การทับหม้อเกลือหลังคลอด ช่วยคุณแม่อย่างไร?

ตามหลักการแพทย์แผนไทย หลังคลอดบุตรร่างกายของมารดาจะสูญเสียธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ “การทับหม้อเกลือ” หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “การนาบหม้อเกลือ” จึงเป็นหนึ่งในวิธีฟื้นฟูสุขภาพตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ เพื่อทำให้ร่างกายคุณแม่กลับคืนสู่ภาวะปกติ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า การทับหม้อเกลือช่วยอะไรได้บ้าง และควรทำเมื่อไรจึงจะปลอดภัยที่สุด? มาหาคำตอบกันค่ะ การทับหม้อเกลือคืออะไร? การทับหม้อเกลือ เป็นการใช้หม้อทะนนใส่เกลือทะเลหยาบ นำมาตั้งไฟให้ความร้อน แล้วนำมาห่อด้วยใบพลับพลึง และใส่สมุนไพรฤทธิ์ร้อน ประคบบริเวณหน้าท้อง มีสรรพคุณช่วยขับน้ำคาวปลา หน้าท้องกระชับ ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น  ประโยชน์ของการทับหม้อเกลือหลังคลอด เพื่อฟื้นฟูสภาพหลังคลอด ช่วยให้เลือดและลมไหลเวียนสะดวก ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น ช่วยทำให้น้ำคาวปลาไหลสะดวก ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง และอาจส่งผลให้หน้าท้องยุบได้เร็ว บรรเทาอาการเมื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ และปวดมดลูก ควรเริ่มทับหม้อเกลือเมื่อไร? กรณีคลอดธรรมชาติ: เริ่มได้ตั้งแต่ 7 วัน หลังคลอด กรณีผ่าคลอด: 30-45 วันหลังคลอด หรือหลังจากตรวจแผลผ่าคลอดเรียบร้อยแล้ว (แผลแห้งสนิทดี) ข้อห้ามในการทับหม้อเกลือ ไม่ควรทับหม้อเกลือขณะมีไข้  ควรทำหลังจากแผลผ่าคลอดแห้งสนิทดี  ทำควบคู่กับการอยู่ไฟจะได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ทำไมต้องเลือกทับหม้อเกลือที่อุ่นเรือนคลินิก? ที่อุ่นเรือนคลินิก เรามีบริการอยู่ไฟหลังคลอดแบบครบวงจรโดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่มีประสบการณ์ด้านการดูแลคุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะทั้งการนวดกระตุ้นน้ำนม นวดคลายกล้ามเนื้อ นวดโกยหน้าท้อง ทับหม้อเกลือและอบสมุนไพร เพื่อฟื้นฟูร่างกายอย่างปลอดภัย ✅ ให้บริการในคลินิกและนอกสถานที่✅ คอร์สอยู่ไฟ 3/5/7/10 วัน✅ แพทย์แผนไทยประยุกต์ จบการศึกษาจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ 📞 จองคิว: 061-997-4162 | Line: @273cevhb📍 ดูแผนที่: อุ่นเรือนคลินิก

อ่านต่อ »
คุณแม่ตั้งครรภ์ขณะนวดโดยแพทย์แผนไทย

ข้อควรระวังในการนวดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

การนวดแม่ตั้งครรภ์ เป็นหนึ่งในวิธีผ่อนคลายที่หลายคนเลือกเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย แต่หากนวดไม่ถูกวิธี อาจเกิดผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้โดยไม่รู้ตัว ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูว่า ข้อควรระวังในการนวดหญิงตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง เพื่อให้การนวดขณะตั้งครรภ์นั้นปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด ทำไมนวดจึงสำคัญกับคุณแม่ตั้งครรภ์? ในระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายของผู้หญิงจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งในด้านฮอร์โมน กล้ามเนื้อ และระบบไหลเวียนโลหิต การนวดจึงช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเอว อ่อนล้า และช่วยให้นอนหลับดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาหรือทุกจุดของร่างกายจะนวดได้โดยปลอดภัย ช่วงเวลาที่ควรหลีกเหลี่ยงการนวด ไตรมาสแรก (1–12 สัปดาห์) เป็นช่วงที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการนวดอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแท้ง หรือกระตุ้นให้มดลูกหดตัวโดยไม่ตั้งใจ หากไม่จำเป็น ควรรอให้อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ 1 เดือนก่อนคลอด เนื่องจากจะเป็นการกระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ หลักการนวดแม่ตั้งครรภ์ หรือนวดหญิงตั้งครรภ์ กดนวดเบาๆ ด้วยความนุ่มนวล เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ไม่ทำให้เกร็ง หรือเจ็บ ไม่นวดบดขยี้ ด้วยความรุนแรง อาจเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้ ฟังเสียงร่างกายตัวเองเสมอ หากขณะนวดรู้สึกเวียนหัว หน้ามืด ใจสั่น หรือท้องแข็ง — หยุดทันที และแจ้งแพทย์หรือผู้ให้บริการ เพราะร่างกายกำลังส่งสัญญาณว่ามีความไม่สมดุลเกิดขึ้น ท่านอนที่เหมาะสมในการนอนของหญิงตั้งครรภ์ แนะนำให้ใช้ ท่านอนตะแคงซ้าย ระหว่างนวด เพื่อป้องกันการกดทับเส้นเลือดใหญ่ (vena cava) ที่จะส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือดของแม่และลูกในครรภ์ เลือกแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่มีประสบการณ์ การนวดขณะตั้งครรภ์ไม่ควรทำโดยหมอนวดทั่วไป ควรเลือกผู้ที่มีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับ การดูแลหญิงตั้งครรภ์ และผ่านการอบรมด้าน การนวดปลอดภัยสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะ หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่เข้าใจคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างแท้จริง 📍 เราขอแนะนำบริการ นวดสำหรับแม่ตั้งครรภ์โดยแพทย์แผนไทยประยุกต์📆 เปิดบริการทุกวัน 10:00 – 20:00 น. | โทร. 061-997-4162 | Line: @273cevhb 

อ่านต่อ »

คำถามที่พบบ่อย: การอยู่ไฟแม่หลังคลอด

อยู่ไฟคืออะไร? อยู่ไฟ คือกระบวนการดูแลร่างกายของคุณแม่หลังคลอดตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยใช้การนวด ประคบสมุนไพร อบสมุนไพร ทับหม้อเกลือ และการอยู่ในที่อบอุ่น เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อยู่ไฟหลังคลอดได้เมื่อไหร่? โดยทั่วไปสามารถเริ่มอยู่ไฟได้หลังคลอดประมาณ 7-10 วัน หากคลอดธรรมชาติ และประมาณ 30-45 วันหากคลอดผ่าตัด แต่ควรได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มการอยู่ไฟ อยู่ไฟช่วยอะไรบ้าง? ลดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้มลูกหรือให้นม ขับน้ำคาวปลาและของเสีย ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 ภายในร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียด ฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิต อยู่ไฟกี่วันถึงจะเห็นผล? แนะนำให้อยู่ไฟอย่างต่อเนื่อง 5-7 วันขึ้นไป จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น รู้สึกเบาสบายตัว นอนหลับดีขึ้น และอาการปวดเมื่อยลดลง 👉 ทักไลน์เพื่อดูราคาและจองรอบ อยู่ไฟที่บ้านกับที่คลินิกต่างกันยังไง? อยู่ไฟที่บ้าน: สะดวก ไม่ต้องเดินทาง เหมาะสำหรับแม่ที่มีลูกเล็กหรือไม่มีคนช่วยดูแล อยู่ไฟที่คลินิก: มีอุปกรณ์ครบ บรรยากาศผ่อนคลาย และทำให้คุณแม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ สนใจคอร์สอยู่ไฟ? สอบถามผ่าน LINE ถ้าไม่มีเวลาอยู่ไฟทุกวัน ทำแบบไหนได้บ้าง? สามารถเลือกคอร์สแบบวันเว้นวัน หรือ 3 วันต่อสัปดาห์ก็ได้ ทางคลินิกมีแพ็กเกจที่ยืดหยุ่น เหมาะกับคุณแม่แต่ละคน สามารถอยู่ไฟได้แม้ผ่าคลอดหรือไม่? ได้ค่ะ แต่ต้องรอให้แผลผ่าตัดแห้งและไม่มีการติดเชื้อ (ประมาณ 30-45 วัน)  อยู่ไฟมีข้อห้ามหรือข้อควรระวังไหม? หากมีไข้ อักเสบ หรือแผลยังไม่สมานดี ควรเลื่อนการอยู่ไฟ หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรไว้ให้คุณหมอสำหรับอยู่ไฟที่บ้านบ้างคะ? ทางคลินิกขออนุญาตใช้สิ่งของภายในบ้านของคุณแม่ดังนี้ค่ะ: เตาแก๊ส  ปลั๊กไฟใกล้บริเวณที่ทำการอยู่ไฟ เตียงนอนหรือเบาะปูพื้น คาน/บานประตูที่สามารถแขวนกระโจมอบสมุนไพรได้ เก้าอี้สำหรับนั่งในกระโจม (ควรเป็นเก้าอี้สูง) หากมีข้อจำกัดหรือไม่สะดวกตรงไหนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ ทางเรายินดีปรับให้เหมาะกับบ้านของคุณแม่ค่ะ คุณแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนอยู่ไฟที่บ้าน? ก่อนอยู่ไฟที่บ้าน คุณแม่สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ตามนี้เลยค่ะ: การอยู่ไฟใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงต่อครั้ง แนะนำให้ ให้นมน้องให้เรียบร้อยก่อนเริ่ม เพราะหลังอยู่ไฟร่างกายจะอบอุ่น น้ำนมจะมาได้ดี และสามารถให้นมต่อได้ทันที ควร เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก่อนเริ่มอยู่ไฟ ใส่เสื้อผ้าที่ สบายตัว เช่น เสื้อยืดกับกางเกงผ้านิ่ม ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดชั้นใน หากมี กระโจมอก สามารถใส่ได้ตอนเข้าอบสมุนไพร แนะนำให้เลือกบริเวณที่ สงบและอากาศถ่ายเทได้ดี ภายในบ้าน เพื่อให้การอยู่ไฟมีประสิทธิภาพและคุณแม่รู้สึกผ่อนคลายที่สุด หากมีข้อสงสัยหรือติดขัดเรื่องพื้นที่ อุปกรณ์ หรืออื่น ๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ ทางเรายินดีปรับให้เหมาะกับบ้านของคุณแม่ค่ะ 💚 การอยู่ไฟช่วยกระตุ้นน้ำนมได้จริงไหม? ได้ค่ะ 💚 การอยู่ไฟตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายอบอุ่นและผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นน้ำนม เช่น oxytocin หลังจากอยู่ไฟเสร็จ หลายคนจะรู้สึกว่า “น้ำนมมาเยอะขึ้นทันที” หรือ ไหลดีขึ้นกว่าก่อนอยู่ไฟ โดยเฉพาะถ้าได้ทำร่วมกับการนวดเปิดท่อน้ำนม และดูแลการพักผ่อนของคุณแม่ควบคู่ หากคุณแม่มีปัญหาน้ำนมมาน้อย ทางทีมงานสามารถปรับเทคนิคอยู่ไฟและการประคบสมุนไพรเพื่อช่วยกระตุ้นเฉพาะจุดได้ค่ะ อยู่ไฟแล้วให้นมลูกได้เลยไหม? ได้เลยค่ะ! 😊 หลังอยู่ไฟเสร็จสามารถให้นมลูกได้ทันทีเพราะร่างกายจะอบอุ่น โลหิตไหลเวียนดี และฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการผลิตน้ำนมจะทำงานได้เต็มที่แนะนำว่า ก่อนเริ่มอยู่ไฟควรให้นมน้องไว้ก่อน 1 รอบ แล้วพอเสร็จจะสามารถให้นมรอบต่อไปได้พอดีค่ะ อยู่ไฟกับการนวดเปิดท่อน้ำนม ต่างกันยังไง? การอยู่ไฟและการนวดเปิดท่อน้ำนม เป็นการดูแลหลังคลอดที่มีเป้าหมายต่างกัน แต่สามารถ เสริมกันได้อย่างดีมาก ค่ะ รายการ อยู่ไฟ นวดเปิดท่อน้ำนม ✅ เป้าหมายหลัก ฟื้นฟูร่างกายแม่หลังคลอด กระตุ้นระบบไหลเวียน แก้อาการน้ำนมไม่ไหล ท่อน้ำนมตัน น้ำนมน้อย ✅ วิธีการ ใช้ความร้อนจากสมุนไพร: อบ ประคบ นวดผ่อนคลาย นวดหน้าอกเฉพาะจุด เปิดท่อน้ำนมอย่างนุ่มนวล ✅ ผลต่อการให้นม ร่างกายอบอุ่น → ฮอร์โมนหลั่งดี น้ำนมมาเยอะขึ้น ช่วยให้ น้ำนมไหลคล่อง / ไม่คัดเจ็บ ✅ เหมาะกับ ทุกแม่หลังคลอด (แม้ไม่มีปัญหานม) แม่ที่มีปัญหาน้ำนมโดยเฉพาะ เช่น ตัน / น้อย / คัด ✅ ทำร่วมกันได้ไหม ได้ค่ะ! เห็นผลดีขึ้นมากเมื่อทำร่วมกัน     💚 แนะนำให้เริ่มต้นด้วย อยู่ไฟเพื่อปรับสมดุลร่างกาย และถ้ามีปัญหาเรื่องน้ำนม → นวดเปิดท่อเฉพาะจุดเสริม เพื่อให้เห็นผลเร็วและปลอดภัยค่ะ ท่อน้ำนมตันควรแก้ยังไง? ถ้าคุณแม่รู้สึกว่าเต้านมแข็ง เจ็บ ปวด หรือมีจุดนูนเป็นก้อน อาจเกิดจาก ท่อน้ำนมตัน ค่ะ วิธีแก้เบื้องต้นมีดังนี้: ✅ แนวทางดูแลด้วยตัวเอง (เบื้องต้น) ประคบร้อนก่อนให้นม หรือก่อนปั๊ม นวดเบา ๆ บริเวณที่เป็นก้อน โดยไล่จากฐานเต้าเข้าหาหัวนม ให้น้องดูดบ่อยขึ้น และเริ่มจากข้างที่ตันก่อน ปรับท่าอุ้มน้องให้หลากหลาย เพื่อกระตุ้นการระบายน้ำนมให้ทั่ว ❗ หากยังไม่ดีขึ้นภายใน 24–48 ชม.: แนะนำให้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดเปิดท่อน้ำนม ที่อุ่นเรือนคลินิกมีบริการนวดเปิดท่อน้ำนมโดยแพทย์แผนไทยประยุกต์👉 ช่วยให้ก้อนน้ำนมคลายโดยไม่เจ็บ และปลอดภัยต่อคุณแม่ 🟢 หากมีไข้ หนาวสั่น หรือเจ็บมาก → ควรพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการเต้านมอักเสบค่ะ อยู่ไฟ คือกระบวนการดูแลร่างกายของคุณแม่หลังคลอดตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยใช้การนวด ประคบสมุนไพร อบสมุนไพร ทับหม้อเกลือ และการอยู่ในที่อบอุ่น เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยทั่วไปสามารถเริ่มอยู่ไฟได้หลังคลอดประมาณ 7-10 วัน หากคลอดธรรมชาติ และประมาณ 30-45 วันหากคลอดผ่าตัด แต่ควรได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มการอยู่ไฟ ลดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้มลูกหรือให้นม ขับน้ำคาวปลาและของเสีย ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 ภายในร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียด ฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิต แนะนำให้อยู่ไฟอย่างต่อเนื่อง 5-7 วันขึ้นไป จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น รู้สึกเบาสบายตัว นอนหลับดีขึ้น และอาการปวดเมื่อยลดลง 👉 ทักไลน์เพื่อดูราคาและจองรอบ อยู่ไฟที่บ้าน: สะดวก ไม่ต้องเดินทาง เหมาะสำหรับแม่ที่มีลูกเล็กหรือไม่มีคนช่วยดูแล อยู่ไฟที่คลินิก: มีอุปกรณ์ครบ บรรยากาศผ่อนคลาย และทำให้คุณแม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ สนใจคอร์สอยู่ไฟ? สอบถามผ่าน LINE สามารถเลือกคอร์สแบบวันเว้นวัน หรือ 3 วันต่อสัปดาห์ก็ได้ ทางคลินิกมีแพ็กเกจที่ยืดหยุ่น เหมาะกับคุณแม่แต่ละคน ได้ค่ะ แต่ต้องรอให้แผลผ่าตัดแห้งและไม่มีการติดเชื้อ (ประมาณ 30-45 วัน)  หากมีไข้ อักเสบ หรือแผลยังไม่สมานดี ควรเลื่อนการอยู่ไฟ หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ ทางคลินิกขออนุญาตใช้สิ่งของภายในบ้านของคุณแม่ดังนี้ค่ะ: เตาแก๊ส  ปลั๊กไฟใกล้บริเวณที่ทำการอยู่ไฟ เตียงนอนหรือเบาะปูพื้น คาน/บานประตูที่สามารถแขวนกระโจมอบสมุนไพรได้ เก้าอี้สำหรับนั่งในกระโจม (ควรเป็นเก้าอี้สูง) หากมีข้อจำกัดหรือไม่สะดวกตรงไหนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ ทางเรายินดีปรับให้เหมาะกับบ้านของคุณแม่ค่ะ ก่อนอยู่ไฟที่บ้าน คุณแม่สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ตามนี้เลยค่ะ: การอยู่ไฟใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงต่อครั้ง แนะนำให้ ให้นมน้องให้เรียบร้อยก่อนเริ่ม เพราะหลังอยู่ไฟร่างกายจะอบอุ่น น้ำนมจะมาได้ดี และสามารถให้นมต่อได้ทันที ควร เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก่อนเริ่มอยู่ไฟ ใส่เสื้อผ้าที่ สบายตัว เช่น เสื้อยืดกับกางเกงผ้านิ่ม ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดชั้นใน หากมี กระโจมอก สามารถใส่ได้ตอนเข้าอบสมุนไพร แนะนำให้เลือกบริเวณที่ สงบและอากาศถ่ายเทได้ดี ภายในบ้าน เพื่อให้การอยู่ไฟมีประสิทธิภาพและคุณแม่รู้สึกผ่อนคลายที่สุด หากมีข้อสงสัยหรือติดขัดเรื่องพื้นที่ อุปกรณ์ หรืออื่น ๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ ทางเรายินดีปรับให้เหมาะกับบ้านของคุณแม่ค่ะ 💚 ได้ค่ะ 💚 การอยู่ไฟตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายอบอุ่นและผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นน้ำนม เช่น oxytocin หลังจากอยู่ไฟเสร็จ หลายคนจะรู้สึกว่า “น้ำนมมาเยอะขึ้นทันที” หรือ ไหลดีขึ้นกว่าก่อนอยู่ไฟ โดยเฉพาะถ้าได้ทำร่วมกับการนวดเปิดท่อน้ำนม และดูแลการพักผ่อนของคุณแม่ควบคู่ หากคุณแม่มีปัญหาน้ำนมมาน้อย ทางทีมงานสามารถปรับเทคนิคอยู่ไฟและการประคบสมุนไพรเพื่อช่วยกระตุ้นเฉพาะจุดได้ค่ะ ได้เลยค่ะ! 😊 หลังอยู่ไฟเสร็จสามารถให้นมลูกได้ทันทีเพราะร่างกายจะอบอุ่น โลหิตไหลเวียนดี และฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการผลิตน้ำนมจะทำงานได้เต็มที่แนะนำว่า ก่อนเริ่มอยู่ไฟควรให้นมน้องไว้ก่อน 1 รอบ แล้วพอเสร็จจะสามารถให้นมรอบต่อไปได้พอดีค่ะ การอยู่ไฟและการนวดเปิดท่อน้ำนม เป็นการดูแลหลังคลอดที่มีเป้าหมายต่างกัน แต่สามารถ เสริมกันได้อย่างดีมาก ค่ะ รายการ อยู่ไฟ นวดเปิดท่อน้ำนม ✅ เป้าหมายหลัก ฟื้นฟูร่างกายแม่หลังคลอด กระตุ้นระบบไหลเวียน แก้อาการน้ำนมไม่ไหล ท่อน้ำนมตัน น้ำนมน้อย ✅ วิธีการ ใช้ความร้อนจากสมุนไพร: อบ ประคบ นวดผ่อนคลาย นวดหน้าอกเฉพาะจุด เปิดท่อน้ำนมอย่างนุ่มนวล ✅ ผลต่อการให้นม ร่างกายอบอุ่น → ฮอร์โมนหลั่งดี น้ำนมมาเยอะขึ้น ช่วยให้ น้ำนมไหลคล่อง / ไม่คัดเจ็บ ✅ เหมาะกับ ทุกแม่หลังคลอด (แม้ไม่มีปัญหานม) แม่ที่มีปัญหาน้ำนมโดยเฉพาะ เช่น ตัน / น้อย / คัด ✅ ทำร่วมกันได้ไหม ได้ค่ะ! เห็นผลดีขึ้นมากเมื่อทำร่วมกัน     💚 แนะนำให้เริ่มต้นด้วย อยู่ไฟเพื่อปรับสมดุลร่างกาย และถ้ามีปัญหาเรื่องน้ำนม → นวดเปิดท่อเฉพาะจุดเสริม เพื่อให้เห็นผลเร็วและปลอดภัยค่ะ ถ้าคุณแม่รู้สึกว่าเต้านมแข็ง เจ็บ ปวด หรือมีจุดนูนเป็นก้อน อาจเกิดจาก ท่อน้ำนมตัน ค่ะ วิธีแก้เบื้องต้นมีดังนี้: ✅ แนวทางดูแลด้วยตัวเอง (เบื้องต้น) ประคบร้อนก่อนให้นม หรือก่อนปั๊ม นวดเบา ๆ บริเวณที่เป็นก้อน โดยไล่จากฐานเต้าเข้าหาหัวนม ให้น้องดูดบ่อยขึ้น และเริ่มจากข้างที่ตันก่อน ปรับท่าอุ้มน้องให้หลากหลาย เพื่อกระตุ้นการระบายน้ำนมให้ทั่ว ❗ หากยังไม่ดีขึ้นภายใน 24–48 ชม.: แนะนำให้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดเปิดท่อน้ำนม ที่อุ่นเรือนคลินิกมีบริการนวดเปิดท่อน้ำนมโดยแพทย์แผนไทยประยุกต์👉 ช่วยให้ก้อนน้ำนมคลายโดยไม่เจ็บ และปลอดภัยต่อคุณแม่ 🟢 หากมีไข้ หนาวสั่น หรือเจ็บมาก → ควรพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการเต้านมอักเสบค่ะ

อ่านต่อ »

หญิงหลังคลอดกับอาการหนาวสะท้าน

อาการหนาวสะท้าน หนาวเข้ากระดูก หรือหนาวใน ที่พบในหญิงหลังคลอด คือ อาการรู้สึกหนาวลึกๆอยู่ภายในเฉียบพลัน หนาวมาก สั่นทั้งตัว จนฟันกระทบกับแต่จะไม่มีไข้ โดยอาการดังกล่าวนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้อยู่ในอุณหภูมิปกติ เกิดขึ้นได้ทันทีหลังคลอดบุตร หรือเกิดวันถัดๆไปหลังจากคลอดบุตรไปแล้ว ระยะเวลาแสดงในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที แล้วอาการจึงจะดีขึ้น แต่ไม่ควรเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์ ทางแผนปัจจุบันนั้น  อาการหนาวสะท้านหลังคลอด คาดว่ามีสาเหตุมาจาก การตอบสนองทางร่างกายจากกระบวนการคลอด การระบายความร้อนของร่างกายหลังจากใช้พลังงานมากในระยะเบ่งคลอด มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน การสูญเสียเลือด หรือการขาดธาตุเหล็ก อาการหนาวสะท้านนี้มีจุดสำคัญคือจะต้องไม่มีไข้ หากมีไข้อาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อซึ่งเป็นภาวะผิดปกติ อาการหนาวสะท้านนี้จะถือเป็นภาวะที่ไม่รุนแรงสามารถหายได้เองเมื่อร่างกายแข็งแรง ฮอร์โมนและปริมาณเลือดกลับมาอยู่ในภาวะปกติ บรรเทาอาการโดยการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอ ทางการแพทย์แผนไทย ภาวะหนาวสะท้านเกิดจากร่างกายสูญเสียสมดุลของธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟจากการคลอดบุตร โดยธาตุที่หย่อนลงคือธาตุไฟและธาตุลม ทำให้ความร้อนในร่างกายลดลง เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก จึงเกิดเป็นอาการหนาวสะท้านตามมา การดูแลรักษาคือการเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น ลดอาการหนาวสะท้าน กรรมวิธีที่ใช้ในการรักษาหญิงหลังคลอดนั้นเรามาเรียกกันว่า การอยู่ไฟหลังคลอด ประกอบไปด้วย หัตถการเหล่านี้จะทำให้ร่างกายอบอุ่นมากขึ้น ช่วยปรับสมดุลการทำงานของธาตุทั้งสี่ ลดอาการหนาวสะท้านได้ดีอีกด้วย

อ่านต่อ »

คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น

ขณะนี้ อุ่นเรือนคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ได้เข้าร่วม “คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น” แล้ว ข่าวดีสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ในพื้นที่จังหวัดนำร่อง 30 บาทรักษาทุกที่ สามารถไปรับบริการแพทย์แผนไทยตามสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ที่ คลินิกการแพทย์แผนไทยของเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช.ได้แล้ว ในชื่อ “คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น” โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวไปได้ทุกที่ภายในจังหวัดนำร่อง ไม่ว่าสิทธิบัตรทอง 30 บาทจะอยู่ที่ไหนก็ไปใช้บริการได้  ทั้งนี้ คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น ให้บริการด้านการ… โดยรับผู้ป่วยทั้งจากการรับส่งต่อผู้รับบริการจากโรงพยาบาล และประชาชนไปที่คลินิกฯ เอง เพียงทำการนัดหมายเข้ารับบริการมาล่วงหน้าและนำบัตรประชาชนมายื่นที่คลินิก สำหรับจังหวัดที่ดําเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ตามราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง จังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พ.ศ. 2567 ณ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567  มี 42 จังหวัด คือ : (1) จังหวัดนครราชสีมา (2) จังหวัดนครสวรรค์ (3) จังหวัดพังงา (4) จังหวัดเพชรบูรณ์ (5) จังหวัดสระแก้ว (6) จังหวัดสิงห์บุรี   (7) จังหวัดหนองบัวลําภู (8) จังหวัดอํานาจเจริญ (9) จังหวัดเชียงใหม่ (10) จังหวัดเชียงราย (11) จังหวัดน่าน (12) จังหวัดพะเยา (13) จังหวัดลําปาง (14) จังหวัดลําพูน (15) จังหวัดแม่ฮ่องสอน (16) จังหวัดกําแพงเพชร (17) จังหวัดพิจิตร (18) จังหวัดชัยนาท (19) จังหวัดอุทัยธานี (20) จังหวัดสระบุรี (21) จังหวัดนนทบุรี (22) จังหวัดลพบุรี (23) จังหวัดอ่างทอง (24) จังหวัดนครนายก (25) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (26) จังหวัดปทุมธานี (27) จังหวัดอุดรธานี (28) จังหวัดสกลนคร (29) จังหวัดนครพนม (30) จังหวัดเลย (31) จังหวัดหนองคาย (32) จังหวัดบึงกาฬ (33) จังหวัดชัยภูมิ (34) จังหวัดบุรีรัมย์ (35) จังหวัดสุรินทร์ (36) จังหวัดสงขลา (37) จังหวัดสตูล (38) จังหวัดตรัง (39) จังหวัดพัทลุง (40) จังหวัดปัตตานี (41) จังหวัดยะลา (42) กรุงเทพมหานคร นัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านไลน์ คลิก https://lin.ee/EIKAHI3

อ่านต่อ »

การดูแลตัวเองหลังคลอด อาหารสำหรับแม่หลังคลอด

คำแนะนำสำหรับ “มารดาหลังคลอด” ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย เนื่องจากการคลอดบุตรนั้น ทำให้มารดาหลังคลอดสูญเสียความสมดุลของธาตุทัั้ง 4 ภายในร่างกาย โดยเฉพาะธาตุไฟ (สันตัปปัคคี) ที่สูญเสียไปกับโลหิตและการใช้พลังงานในการคลอด ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงธาตุอื่นๆ ให้เสียสมดุลตามไปด้วย นอกจากการอยู่ไฟหลังคลอดแล้ว การดูแลตนเองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการฟื้นฟูสภาพร่างกายของคุณแม่ ทางคลินิกจึงอยากแนะนำการปฏิบัติตัวให้คุณแม่หลังคลอดดังนี้

อ่านต่อ »
ลูกดูดนมแม่ นวดเต้านม

การนวดและประคบเต้านม เปิดท่อน้ำนม ระบายน้ำนม

การดูแลเต้านมสำหรับมารดาหลังคลอด ในทางการแพทย์แผนไทยสามารถใช้หัตถการนวดและประคบเต้านมเพื่อช่วยกระตุ้นให้น้ำนมไหลดีขึ้นและลดการคัดตึงเต้านมได้ ดังนั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งคุณแม่ที่น้ำนมน้อย และคุณแม่ที่ผลิตน้ำนมได้ดีแต่การระบายของท่อทางเดินน้ำนมมีปัญหา ซึ่งเป็นสาเหตุของการคัดตึงเต้านม คงจะดีไม่น้อยหากคุณแม่ที่พบปัญหาดังกล่าว สามารถนวดและประคบเต้านมด้วยตนเองได้ อย่างไรก็ตามหากคุแม่ไม่สะดวกทำเอง ทางอุ่นเรือน คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของเราก็มีบริการนวดและประคบเต้านมให้คุณแม่เช่นกัน สนใจนัดหมายเข้ารับบริการ จองคิวผ่าน LINE คลิกที่นี่ อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ เต้านมคัดตึง (เต้านมตึง เจ็บ หรือคลำแล้วเป็นก้อน) มีก้อนที่เต้านม มีขอบเขตของก้อนชัดเจน อาจมีอาการปวดหรือเจ็บเมื่อถูกสัมผัส คลำพบความร้อนที่เต้านม บริเวณผิวอาจแดงร่วมด้วย สีของน้ำนมเปลี่ยนไป หรือบีบได้หนองไหลออกมาจากหัวนม เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์ เมื่อเต้านมมีการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อนมาก มีหนองไหลออกจากหัวนม ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ แขน รักแร้ โตผิดปกติ มีไข้มากกว่า 38.5 องศาเซลเซียส การนวดเต้านม ใช้มือข้างหนึ่งประคองเต้านม และมืออีกข้างหนึ่งนวดโดยใช้นิ้วทั้งสี่กดด้านตรงข้ามกับมือที่ประคอง กดไล่จากฐานของเต้านมเข้าหาหัวนม ประมาณ 2-3 จุด แล้วกดไล่วนไปในทางเดียวกันรอบๆเต้านม ใช้เวลานวดประมาณข้างละ 10 นาที *ไม่ควรกดแรงจนเกินไปเพราะอาจทำให้เต้านมช้ำและระบมได้ การประคบเต้านม * ก่อนการประคบจะต้องทดสอบความร้อนของลูกประคบหรือผ้าชุบน้ำอุ่นที่บริเวณท้องแขนก่อน เนื่องจากผิวบริเวณเต้านมมีความบอบบางมาก ใช้ลูกประคบสมุนไพรหรือผ้าชุบน้ำอุ่นประคบ โดยออกแรงกดนาบที่ฐานของเต้านมเข้าหาลานนม โดยใช้มือข้างนึงประคองเต้านมเช่นเดียวกับการนวด จากนั้นประคบไล่วนไปรอบๆเต้านมด้วยความนุ่มนวลข้างละประมาณ 10-15 นาที บทความเกี่ยวกับคุณแม่หลังคลอด

อ่านต่อ »

การดูแลมารดาหลังคลอด

หลังจากคุณแม่ผ่านการตั้งครรภ์ และคลอดบุตรแล้ว สรีระร่างกายภายนอก และสมดุลธาตุภายในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่เราก็สามารถที่จะดูแลและฟื้นฟูร่างกายได้ด้วยวิธีการต่างๆมากมาย ซึ่งที่คลินิกอุ่นเรือนแพทย์แผนไทยประยุกต์ของเรา มีบริการ “การดูแลมารดาหลังคลอด” หรือการอยู่ไฟ ซึ่งคุณแม่จะได้รับการทำหัตถการหลากหลายอย่าง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์แผนไทยประยุกต์ ได้แก่ การนวดไทยทั่วร่างกาย นวดกระตุ้นน้ำนม ประคบสมุนไพร นวดโกยท้อง ทับหม้อเกลือ อบไอน้ำสมุนไพร ประโยชน์ของการดูแลหลังคลอดด้วยศาสตร์กาารแพทย์แผนไทย  ช่วยขับน้ำคาวปลา ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ลดอาการหนาวสะท้าน กระตุ้นการไหลของน้ำนม ลดอาการคัดตึงเต้านม บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์จนกระทั่งหลังคลอดบุตร กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ปรับสมดุลธาตุภายในร่างกาย Q&A Q : อยู่ไฟต้องทำหลังจากคลอดบุตรกี่วันคะ? A : ในสมัยโบราณการอยู่ในเรือนไฟสามารถทำได้ทันทีหลังจากมารดาคลอดบุตร แต่ในปัจจุบันนี้สำหรับคุณแม่ที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ เราจะให้การดูแลหลังจากคุณแม่คลอดบุตรไปแล้ว 7 วัน และสำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอด เราจะเริ่มให้การดูแลหลังจากคุณแม่คลอดบุตรไปแล้ว 45 วัน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่ และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณแม่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คุณแม่ควรได้รับการตรวจร่างกายหลังคลอดจากแพทย์แผนปัจจุบันมาก่อน อย่างไรก็ตามแพทย์แผนไทยประยุกต์จะต้องทำการตรวจร่างกายคุณแม่ทุกรายก่อนทำหัตถการอยู่แล้วค่ะ ทั้งนี้ นอกจากการตรวจร่างกายหลังคลอดจากแพทย์แผนปัจจุบัน และการช่วยดูแลฟื้นฟูร่างกายจากแพทย์แผนไทยประยุกต์แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวของคุณแม่เองที่ต้องดูแลร่างกายในอีกหลายๆเรื่อง เช่น การรับประทานอาหาร การพักผ่อน การหลีกเลี่ยงภาวะความเครียดหรือความกังวลต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลถึงน้ำนมได้ทั้งสิ้น ดังนั้นหากคุณแม่มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ย่อมส่งผลให้มีปริมาณน้ำนมเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยไปด้วย เกร็ดความรู้ ว่าด้วยเรื่องของน้ำนม ตามคัมภัร์ปฐมจินดา (คัมภีร์แพทย์แผนไทยที่กล่าวถึงเรื่องของมารดาและทารก) ตอนหนึ่งในคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องของน้ำนมไว้ว่า “ถ้าแพทย์จะพิจารณาดูน้ำนมดีและร้ายนั้น ให้เอาใส่ขันแล้วให้แม่นมนั้นมองดู ถ้าสีและน้ำนมขาว ดังสีสังข์และจมลงในขัน สัณฐานเหมือนดังลูกบัวเกราะ นมอย่างนี้ จัดเอาเป็นน้ำนมอย่างเอก ถ้าหล่อน้ำนมลง และน้ำนมนั้นกระจาย แต่ว่าขันจมลงถึงกันขันแค่ไม่กลมเข้า น้ำนมอย่างนี้ จึงเอาเป็นน้ำนมอย่างโท ถ้าพ้นจากน้ำนม ๒ ประการนี้แล้ว ถึงจะมีลักษณะประกอบไปด้วยยศ ศักดิ์ ชาติตระกูลปานใดก็ดี ถ้ามีกุศลหนหลังยังติดตามบำรุงรักษา ไม่ให้เกิดโรคาพยาธิ รสน้ำนมนั้นเปรี้ยว ขม, ฝาด,จืด,จาง, และมีกลิ่นอันคาวนั้น ก็จัดเป็นน้ำนมโทษทั้งสิ้น” จากข้อความในคัมภีร์ปฐมจินดา กล่าวโดยสรุปได้ว่า ลักษณะน้ำนมที่ดี เมื่อหยดลงน้ำแล้ว น้ำนมจะมีลักษณะดังนี้    1.  น้ำนมสีขาว ดังสีสังข์ จมลงในขัน สัณฐานดังลูกบัวเกราะ จัดเป็นน้ำนมเอก    2.  น้ำนมกระจาย แต่ว่าข้น จมถึงก้นขัน แต่ไม่กลมเข้า จัดเป็นน้ำนมโท      ลักษณะน้ำนมโทษ : มีรสเปรี้ยว, ขม, ฝาด, จืด ลักษณะจาง มีกลิ่นคาว #ลองไปทดสอบกันดูนะคะว่าน้ำนมของคุณแม่มีลักษณะเป็นอย่างไรกันบ้าง#สนใจดูแลหลังคลอดแบบครบวงจรตามศาสตร์แผนไทยประยุกต์  สามารถดูรายละเอียดแพ็กเกจและค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ 👉 ค่าบริการดูแลหลังคลอด

อ่านต่อ »
Scroll to Top