บทความ

ทำไมนวดกดจุดแล้วจึงเรอหรือผายลม

หลักการทางการแพทย์แผนไทยร่างกายมนุษย์มีเส้นประธานสิบที่เปรียบเสมือนถนนใช้เป็นเส้นทางเดินของลมไปทั่วร่างกาย (ลมในเส้น)เมื่อร่างกายมีความผิดปกติที่ส่งผลให้เกิดการขัดขวางเส้นทางเดินของลม ทำให้เกิดการคั่งอั้นของลมในบริเวณต่างๆ ส่งผลให้มีอาการชา ตึง ปวด เมื่อย หน้ามืด วิงเวียน การกดนวดและการประคบสมุนไพรจะกระตุ้นการไหลเวียนของลมให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงทำให้สามารถเกิดการเรอหรือผายลมได้ ปัจจัยที่ส่งผลถึงปริมาณของลมในเส้น💨อาหาร เมื่อรับประทานอาหารที่ย่อยยาก บดเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ส่งผลให้เกิดลมในท้องที่มีจำนวนมากแทรกเข้าสู่ทางเดินเส้นประธานสิบ💨อากาศเย็นและการอยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆส่งผลให้ลมในเส้นเคลื่อนไหวลดลง มัดกล้ามเนื้อซึ่งเป็นธาตุดิน เกิดการเกร็งตึง ส่งผลให้ลมคั่งอั้น💨ความเครียด ทำให้ธาตุไฟและธาตุลมเพิ่มสูงขึ้น ธาตุน้ำในกล้ามเนื้อลดลง ธาตุดินแข็งตึง ขัดขวางทางเดินของลม หลักการทางวิทยาศาสตร์ระบบประสาทอัตโนมัติ แบ่งออกเป็น3ระบบ คือ✅ระบบซิมพาเทติก ทำให้ร่างกายตื่นตัว ต่อสภาวะความเครียด พร้อมที่จะรับมือต่อภารกิจต่างๆ✅ระบบพาราซิมพาเทติก ทำให้ผ่อนคลาย เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหาร และการนอนหลับพักผ่อน✅ระบบประสาทลำไส้ ควบคุมการทำงานของระบบทางเดินอาหารซึ่งระบบซิมพาเทติกมักทำงานตรงกันข้ามกับระบบพาราซิมพาเทติก ส่วนระบบประสาทลำไส้จะเสริมการทำงานของระบบพาราซิมพาเทติกการนวดทำให้ร่างกายผ่อนคลายช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบพาราซิมพาเทติกและระบบประสาทลำไส้ ยับยั้งการทำงานของระบบซิมพาเทติก ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัว กระตุ้นการบีบตัวของทางเดินอาหาร จึงทำให้เกิดการเรอและผายลมออกมานั่นเอง

อ่านต่อ »

หญิงหลังคลอดกับอาการหนาวสะท้าน

อาการหนาวสะท้าน หนาวเข้ากระดูก หรือหนาวใน ที่พบในหญิงหลังคลอด คือ อาการรู้สึกหนาวลึกๆอยู่ภายในเฉียบพลัน หนาวมาก สั่นทั้งตัว จนฟันกระทบกับแต่จะไม่มีไข้ โดยอาการดังกล่าวนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้อยู่ในอุณหภูมิปกติ เกิดขึ้นได้ทันทีหลังคลอดบุตร หรือเกิดวันถัดๆไปหลังจากคลอดบุตรไปแล้ว ระยะเวลาแสดงในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที แล้วอาการจึงจะดีขึ้น แต่ไม่ควรเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์ ทางแผนปัจจุบันนั้น อาการหนาวสะท้านหลังคลอด คาดว่ามีสาเหตุมาจาก การตอบสนองทางร่างกายจากกระบวนการคลอด การระบายความร้อนของร่างกายหลังจากใช้พลังงานมากในระยะเบ่งคลอด มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน การสูญเสียเลือด หรือการขาดธาตุเหล็ก อาการหนาวสะท้านนี้มีจุดสำคัญคือจะต้องไม่มีไข้ หากมีไข้อาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อซึ่งเป็นภาวะผิดปกติ อาการหนาวสะท้านนี้จะถือเป็นภาวะที่ไม่รุนแรงสามารถหายได้เองเมื่อร่างกายแข็งแรง ฮอร์โมนและปริมาณเลือดกลับมาอยู่ในภาวะปกติ บรรเทาอาการโดยการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอ ทางการแพทย์แผนไทย ภาวะหนาวสะท้านเกิดจากร่างกายสูญเสียสมดุลของธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟจากการคลอดบุตร โดยธาตุที่หย่อนลงคือธาตุไฟและธาตุลม ทำให้ความร้อนในร่างกายลดลง เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก จึงเกิดเป็นอาการหนาวสะท้านตามมา การดูแลรักษาคือการเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น ลดอาการหนาวสะท้าน กรรมวิธีที่ใช้ในการรักษาหญิงหลังคลอดนั้นเรามาเรียกกันว่า การอยู่ไฟหลังคลอดประกอบไปด้วย หัตถการเหล่านี้จะทำให้ร่างกายอบอุ่นมากขึ้น ช่วยปรับสมดุลการทำงานของธาตุทั้งสี่ ลดอาการหนาวสะท้านได้ดีอีกด้วย

อ่านต่อ »

ร้านนวดใกล้ฉัน เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย สบายตัว และคุ้มค่าทุกนาที

ทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงบริการนวดได้ง่ายขึ้น เพียงแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์คำว่า “ร้านนวดใกล้ฉัน” ก็จะพบกับผลลัพธ์มากมายเต็มหน้าจอ แต่คำถามสำคัญคือ… ร้านเหล่านั้นปลอดภัยไหม? บริการดีจริงหรือเปล่า? แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการนวดที่เราเลือกจะไม่ทำให้ร่างกายยิ่งแย่ลง?  แม้ว่าการนวดจะเป็นทางเลือกในการผ่อนคลายและฟื้นฟูร่างกายที่ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกวัน แต่ก็มีหลายกรณีที่ลูกค้าได้รับบริการที่ไม่มีคุณภาพ เช่น การนวดผิดวิธี การใช้แรงมากเกินไป หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้โดยไม่รู้ตัว ร้านนวดที่ดีควรมีอะไรบ้าง? เพื่อความปลอดภัยและความพึงพอใจของตัวคุณเอง ก่อนตัดสินใจเลือกร้านนวด ลองตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ การเลือกใช้บริการจากร้านนวดที่มีมาตรฐานไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย จองร้านนวดใกล้ฉันแบบปลอดภัยผ่าน GoWabi หากคุณไม่อยากเสียเวลาค้นหา หรือไม่แน่ใจว่าร้านไหนดี ลองใช้ GoWabi แพลตฟอร์มจองร้านนวดและสปาอันดับหนึ่งของไทย ที่ช่วยให้คุณค้นหา “ร้านนวดใกล้ฉัน” ได้อย่างมั่นใจและสะดวกสุด ๆ GoWabi รวบรวมร้านนวดคุณภาพหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กในชุมชนหรือสปาโรงแรมหรู พร้อมระบบรีวิวจากผู้ใช้จริง แสดงราคาชัดเจน และสามารถจองล่วงหน้าได้ในไม่กี่ขั้นตอน ที่สำคัญ…ยังมีโปรโมชั่นดี ๆ อัปเดตอยู่เสมอ ทำให้คุณได้บริการคุณภาพในราคาคุ้มค่า อุ่นเรือนคลินิก – คลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่คุณวางใจได้ อุ่นเรือนคลินิก คือคลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ มีใบอนุญาตและประสบการณ์จริงในการดูแลลูกค้ามาอย่างยาวนาน เราเชื่อว่าการนวดไม่ใช่แค่การคลายเมื่อย แต่คือศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ผสมผสานระหว่างเทคนิคโบราณและการแพทย์สมัยใหม่ บริการของเรา ได้แก่ ไม่ว่าคุณจะมองหาการดูแลร่างกายเชิงรักษา หรือเพียงแค่อยากผ่อนคลายสบายตัว อุ่นเรือนคลินิกก็พร้อมให้บริการอย่างมืออาชีพ สามารถค้นหาอุ่นเรือนคลินิกได้ง่าย ๆ บนแพลตฟอร์ม GoWabi พร้อมดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองคิวได้ที่ Ounruean Clinic – อุ่นเรือนคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ การนวดที่ดี เริ่มต้นจากการเลือกร้านที่ไว้ใจได้ การนวดที่มีคุณภาพ ไม่เพียงแค่ช่วยคลายเมื่อย แต่ยังช่วยปรับสมดุลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าคุณกำลังมองหา “ร้านนวดใกล้ฉัน” ที่เชื่อถือได้ ลองใช้ GoWabi เพื่อค้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุด พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ และรีวิวจากลูกค้าจริง และหากคุณต้องการบริการที่ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านแพทย์แผนไทยประยุกต์ อุ่นเรือนคลินิกก็พร้อมให้คุณเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง

อ่านต่อ »

คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น

ขณะนี้ อุ่นเรือนคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ได้เข้าร่วม “คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น” แล้ว ข่าวดีสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ในพื้นที่จังหวัดนำร่อง 30 บาทรักษาทุกที่ สามารถไปรับบริการแพทย์แผนไทยตามสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ที่ คลินิกการแพทย์แผนไทยของเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช.ได้แล้ว ในชื่อ “คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น” โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวไปได้ทุกที่ภายในจังหวัดนำร่อง ไม่ว่าสิทธิบัตรทอง 30 บาทจะอยู่ที่ไหนก็ไปใช้บริการได้  ทั้งนี้ คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น ให้บริการด้านการ… โดยรับผู้ป่วยทั้งจากการรับส่งต่อผู้รับบริการจากโรงพยาบาล และประชาชนไปที่คลินิกฯ เอง เพียงทำการนัดหมายเข้ารับบริการมาล่วงหน้าและนำบัตรประชาชนมายื่นที่คลินิก สำหรับจังหวัดที่ดําเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ตามราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง จังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พ.ศ. 2567 ณ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567  มี 42 จังหวัด คือ : นัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านไลน์ คลิก https://lin.ee/EIKAHI3

อ่านต่อ »

การเตรียมตัวก่อนการนวด ข้อห้าม-ข้อควรระวังในการนวด

การเตรียมตัวก่อนการนวด 1.รับประทานอาหารมาก่อนอย่างน้อย 30 นาที 2.พักผ่อนให้เพียงพอ 3.หากมีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์แผนไทยประยุกต์ทราบ และรับประทานยาให้ตรงตามแพทย์สั่ง 4.กรณีไม่ประสงค์ใช้ชุดที่ทางคลินิกเตรียมไว้ให้ แนะนำให้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สุภาพ ไม่รัดรูป เคลื่อนไหวได้สะดวก ผ้าไม่หนาจนเกินไป  ข้อห้ามในการนวด 1.มีไข้สูงเกินกว่า 38.5 องศาเซลเซียส 2.ความดันโลหิตสูงมากกว่า 160/100 มิลลิเมตรปรอท ร่วมกับมีอาการปวดเวียนศีรษะ หน้ามืด ใจสั่น หรือคลื่นไส้อาเจียน 3.มีภาวะกระดูกพรุนรุนแรง 4.เป็นโรคผิวหนังที่สามารถติดต่อได้ 5.มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ 6.ได้รับการผ่าตัดในระยะเวลา 1 เดือน 7.หลังจากประสบอุบัติเหตุมาใหม่ๆ 8.ไม่นวดบริเวณที่ : มีแผลเปิด มีบาดแผลเรื้อรัง กระดูกหัก-แตก-ร้าว เป็นมะเร็ง ข้อควรระวังในการนวด 1.เด็ก ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ 2.ความดันโลหิตสูงมากกว่า 160/100 มิลลิเมตรปรอท ไม่มีอาการหน้ามืด ใจสั่น ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน 3.มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดแดงโป่ง หลอดเลือดอักเสบ หลอดเลือดแข็ง 4.มีประวัติเลือดออกผิดปกติหรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือด 5.เป็นโรคเบาหวาน 6.มีภาวะกระดูกพรุน 7.มีภาวะข้อหลวม ข้อเคลื่อน ข้อหลุด 8.มีบาดแผลที่ยังหายไม่สนิทดี ผิวหนังแตกง่าย หรือได้รับการปลูกถ่ายผิวหนัง

อ่านต่อ »

การดูแลตัวเองหลังคลอด อาหารสำหรับแม่หลังคลอด

คำแนะนำสำหรับ “มารดาหลังคลอด” ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย เนื่องจากการคลอดบุตรนั้น ทำให้มารดาหลังคลอดสูญเสียความสมดุลของธาตุทัั้ง 4 ภายในร่างกาย โดยเฉพาะธาตุไฟ (สันตัปปัคคี) ที่สูญเสียไปกับโลหิตและการใช้พลังงานในการคลอด ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงธาตุอื่นๆ ให้เสียสมดุลตามไปด้วย นอกจากการอยู่ไฟหลังคลอดแล้ว การดูแลตนเองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการฟื้นฟูสภาพร่างกายของคุณแม่ ทางคลินิกจึงอยากแนะนำการปฏิบัติตัวให้คุณแม่หลังคลอดดังนี้ หากต้องการเข้ารับบริการอยู่ไฟหลังคลอด สามารถติดต่อนัดหมายเข้ารับบริการกับทางอุ่นเรือนคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ได้ค่ะ

อ่านต่อ »

การประคบสมุนไพร

การประคบสมุนไพรเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาของแพทย์แผนไทย ซึ่งโดยส่วนมากมักจะใช้ควบคู่ไปกับการนวดรักษา เป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพในการรักษาให้ดีขึ้น และทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวมากขึ้น ทั้งนี้ในผู้ป่วยบางรายแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์อาจพิจารณารักษาด้วยการประคบสมุนไพรเป็นหลักเพียงอย่างเดียวก็ได้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นการใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะบางอย่างที่ไม่เหมาะกับการนวดรักษา การประคบสมุนไพรจะเป็นลักษณะของการประคบร้อน ซึ่งหลักการรักษาหลักๆจะเป็นเรื่องของการใช้ความร้อนในการช่วยให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น พังผืด คลายความตึงตัว และช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ในส่วนของตัวยาสมุนไพรซึ่งเป็นส่วนประกอบของลูกประคบนั้น ก็จะมีสรรพคุณที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการรักษาเพิ่มขึ้นอีกด้วย ประโยชน์ของการประคบสมุนไพร ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยลดอาการบวม อักเสบของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หลัง 24-48 ชั่วโมง ลดอาการเกร็ง ตึง ของกล้ามเนื้อ พังผืด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่วนประกอบหลักของลูกประคบสมุนไพร ไพล แก้ปวดเมื่อย ลดการอักเสบ ผิวมะกรูด มีน้ำมันหอมระเหย แก้ลมวิงเวียน ตะไคร้บ้าน แต่งกลิ่น ใบมะขาม แก้อาการคันตามร่างกาย ช่วยบำรุงผิว ขมิ้นชัน ช่วยลดอาการอักเสบ แก้โรคผิวหนัง เกลือ ช่วยดูดความร้อน และช่วยพาตัวยาซึมผ่านผิวหนังได้สะดวกขึ้น การบูร แต่งกลิ่น บำรุงหัวใจ พิมเสน แต่งกลิ่น บำรุงหัวใจ ข้อควรระวัง ระวังการประคบบริเวณผิวหนังอ่อน บริเวณที่มีแผล ควรมีการทดสอบความร้อนบริเวณท้องแขนก่อนการประคบทุกครั้ง หากลูกประคบร้อนมากให้ใช้ผ้าขนหนูห่อลูกประคบก่อน ควรระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยเบาหวาน อัมพาต เด็ก และผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว ความรู้สึกตอบสนองต่อความร้อนช้า อาจจะทำให้ผิวหนังไหม้ พองได้ง่าย ไม่ควรใช้ลูกประคบสมุนไพรในกรณีที่มีการอักเสบ (ปวด, บวม, แดง, ร้อน) ในช่วง 24 ชั่วโมง เนื่องจากจะทำให้อักเสบมากขึ้นได้ หลังจากประคบสมุนไพรแล้ว ไม่ควรอาบน้ำทันทีเพราะจะไปชะล้างตัวยาออกจากผิวหนัง และอุณภูมิของร่างกายปรับเปลี่ยนไม่ทันอาจจะทำให้ธาตุในร่างกายเสียสมดุลได้

อ่านต่อ »

การนวดและประคบเต้านม เปิดท่อน้ำนม ระบายน้ำนม

การดูแลเต้านมสำหรับมารดาหลังคลอด ในทางการแพทย์แผนไทยสามารถใช้หัตถการนวดและประคบเต้านมเพื่อช่วยกระตุ้นให้น้ำนมไหลดีขึ้นและลดการคัดตึงเต้านมได้ ดังนั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งคุณแม่ที่น้ำนมน้อย และคุณแม่ที่ผลิตน้ำนมได้ดีแต่การระบายของท่อทางเดินน้ำนมมีปัญหา ซึ่งเป็นสาเหตุของการคัดตึงเต้านม คงจะดีไม่น้อยหากคุณแม่ที่พบปัญหาดังกล่าว สามารถนวดและประคบเต้านมด้วยตนเองได้ อย่างไรก็ตามหากคุแม่ไม่สะดวกทำเอง ทางอุ่นเรือน คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของเราก็มีบริการนวดและประคบเต้านมให้คุณแม่เช่นกัน สนใจนัดหมายเข้ารับบริการ Add Line ได้ที่นี่ อาการที่อาจเกิดขึ้นได้1.เต้านมคัดตึง2.มีก้อนที่เต้านม มีขอบเขตของก้อนชัดเจน อาจมีอาการปวดหรือเจ็บเมื่อถูกสัมผัส3.คลำพบความร้อนที่เต้านม บริเวณผิวอาจแดงร่วมด้วย4.สีของน้ำนมเปลี่ยนไป หรือบีบได้หนองไหลออกมาจากหัวนม เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์– เมื่อเต้านมมีการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อนมาก มีหนองไหลออกจากหัวนม– ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ แขน รักแร้ โตผิดปกติ– มีไข้มากกว่า 38.5 องศาเซลเซียส   การนวดเต้านม ใช้มือข้างหนึ่งประคองเต้านม และมืออีกข้างหนึ่งนวดโดยใช้นิ้วทั้งสี่กดด้านตรงข้ามกับมือที่ประคอง กดไล่จากฐานของเต้านมเข้าหาหัวนม ประมาณ 2-3 จุด แล้วกดไล่วนไปในทางเดียวกันรอบๆเต้านม ใช้เวลานวดประมาณข้างละ 10 นาที *ไม่ควรกดแรงจนเกินไปเพราะอาจทำให้เต้านมช้ำและระบมได้ การประคบเต้านม*ก่อนการประคบจะต้องทดสอบความร้อนของลูกประคบหรือผ้าชุบน้ำอุ่นที่บริเวณท้องแขนก่อน เนื่องจากผิวบริเวณเต้านมมีความบอบบางมาก ใช้ลูกประคบสมุนไพรหรือผ้าชุบน้ำอุ่นประคบ โดยออกแรงกดนาบที่ฐานของเต้านมเข้าหาลานนม โดยใช้มือข้างนึงประคองเต้านมเช่นเดียวกับการนวด จากนั้นประคบไล่วนไปรอบๆเต้านมด้วยความนุ่มนวลข้างละประมาณ 10-15 นาที

อ่านต่อ »

ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ 24 ตำรับ

1. ยาประสะกระเพรา สรรพคุณ แก้ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ 2. ยาวิสัมพยาใหญ่ สรรพคุณ แก้ท้องขึ้น อืดเฟ้อ จุกเสียด 3. ยาประสะกานพลู แก้ปวดท้อง เนื่องจากธาตุไม่ปกติ 4. ยาแสงหมึก สรรพคุณ แก้ตัวร้อน ละลายน้ําดอกไม้เทศแก้ท้องขึ้น ปวดท้อง ละลายน้ําใบกะเพราต้มแก้ไอ ขับเสมหะ ละลายน้ําลูกมะแว้งเครือ หรือลูกมะแว้งต้นกวาดคอแก้แผลในปาก แก้ละออง ละลายน้ําลูกเบญกานีฝนทาในปาก 5. ยามันทธาตุ สรรพคุณ แก้ธาตุไม่ปกติ แก้ท้องขึ้นท้องเฟ้อ 6. ยาประสะเจตพังคี สรรพคุณ แก้กษัยจุกเสียด 7. ยามหาจักรใหญ่ สรรพคุณ แก้ลมทราง แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ 8. ยาตรีหอม สรรพคุณ แก้เด็กท้องผูก ระบายพิษไข้ 9. ยาธรณีสันฑะฆาต สรรพคุณ แก้กษัยเส้น เถาดาน ท้องผูก 10. ยาถ่ายดีเกลือฝรั่ง สรรพคุณ แก้ท้องผูก 11. ยาเหลืองปิดสมุทร สรรพคุณ แก้ท้องเสีย 12. ยาธาตุบรรจบ สรรพคุณ แก้ธาตุไม่ปกติ ท้องเสีย 13. ยาจันทน์ลีลา สรรพคุณ แก้ไข้ แก้ตัวร้อน 14. ยาประสะจันทน์แดง สรรพคุณ แก้ไข้ตัวร้อน กระหายน้ํา 15. ยาเขียวหอม สรรพคุณ แก้ตัวร้อน ร้อนใน กระหายน้ำ แก้พิษหัด พิษสุกใส 16. ยามหานิลแท่งทอง สรรพคุณ แก้ไข้ แก้กระหายน้ํา, แก้หัด อีสุกอีใส รับประทานร่วมกับน้ํารากผักชีต้ม 17. ยาหอมเทพจิตร สรรพคุณ แก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย บํารุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น 18. ยาหอมทิพโอสถ สรรพคุณ แก้ลมวิงเวียน 19. ยาหอมอินทจักร์ สรรพคุณ แก้ลมบาดทะจิต, แก้คลื่นเหียนอาเจียน, แก้ลมจุกเสียด 20. ยาหอมนวโกฐ สรรพคุณ แก้ลมคลื่นเหียนอาเจียน, แก้ลมปลายไข้ 21. ยาอํามฤควาที สรรพคุณ แก้ไอ ขับเสมหะ ละลายน้ํามะนาวแทรกเกลือ ใช้จิบหรือกวาดคอ 22. ยาประสะมะแว้ง สรรพคุณ แก้ไอ แก้เสมหะ ละลายน้ํามะนาวแทรกเกลือรับประทานหรือใช้อม 23. ยาประสะไพล สรรพคุณ แก้จุกเสียด แก้ระดูไม่ปกติ ขับน้ำคาวปลา 24. ยาประสะเปราะใหญ่ สรรพคุณ ถอนพิษไข้ตานทรางสําหรับเด็กอายุต่ำกว่า ๕ ปี ซึ่งมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ถ่ายเหลวกะปริบกะปรอย เบื่ออาหาร สามารถเลือกซื้อยาจากคลินิกได้ที่ :

อ่านต่อ »

ธาตุทั้ง 4

ตามทฤษฎีทางการแพทย์แผนไทยซึ่งมีพัฒนาการมาจากการแพทย์อายุรเวทของอินเดีย ได้กล่าวไว้ว่าร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. ธาตุดิน (ปถวีธาตุ) ถือเป็นที่ตั้งแห่งกองธาตุ มีคุณสมบัติแข็ง คงรูป คงตัว จับต้องได้ เป็นองค์ประกอบในส่วนที่เป็นโครงสร้าง จำแนกออกได้เป็น 20 ประการ ได้แก่ 2. ธาตุน้ำ (อาโปธาตุ) มีลักษณะเป็นของเหลว ซึมซาบ ไหลเวียน โดยอาศัยธาตุลมช่วยทำให้เคลื่อนที่ จำแนกออกได้เป็น 12 ประการ ได้แก่ 3. ธาตุลม (วาโยธาตุ) เป็นพลังภายในร่างกายที่ทำให้มีการเคลื่อนที่ เคลื่อนไหว หมุนเวียน จำแนกออกได้เป็น 6 ประการ ได้แก่ 4. ธาตุไฟ (เตโชธาตุ) มีลักษณะของการเผาผลาญ เผาไหม้ ให้ความร้อน ให้ความอบอุ่น จำแนกได้เป็น 4 ประการ ได้แก่

อ่านต่อ »

Office Syndrome (ออฟฟิศซินโดรม)

Office syndrome (ออฟฟิศซินโดรม) หรือ Myofascial Pain Syndrome เป็นโรคเกี่ยวกับอาการปวดกล้ามเนื้อ โดยจะมีจุดกดเจ็บ (trigger point) ซึ่งทำให้อาการปวดร้าวไปตามส่วนต่าง ๆ ของกล้ามเนื้อหรือบริเวณที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้ายทอย ปวดกราม ปวดลงแขน-ขา เป็นต้น โดยผู้ป่วยมักจะมีลักษณะของการปวดกล้ามเนื้อแบบเรื้อรัง หรืออาการอาจแย่ลงเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาหรือแก้ไขปัญหาจากสาเหตุ สาเหตุของโรค การใช้งานมัดกล้ามเนื้อเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เช่น นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ, การเล่นกีฬาโดยใช้กล้ามเนื้อเดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไปจนเกิดการบาดเจ็บ และมีการหดเกร็งตัว กล้ามเนื้อหดเกร็งตัวเป็นเวลานานจากการถูกกดทับของเส้นประสาท ภาวะที่ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ๆ ขาดความยืดหยุ่น เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกษ์ อัมพาต ภาวะความผิดปกติทางจิตใจ เช่น เครียด กังวล เป็นต้น ลักษณะอาการ มีอาการปวดกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น บ่า ต้นคอ สะบัก หลัง เป็นต้น อาการปวดมักเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว อาจปวดเป็นบริเวณกว้าง ผู้ป่วยบางรายอาจไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ปวดได้ชัดเจน มีการปวดร้าวไปบริเวณใกล้เคียง ลักษณะการปวดร้าวจะปวดแบบล้า ๆ โดยระดับความรุนแรงจะมีตั้งแต่ปวดเล็กน้อยพอรำคาญ จนถึงปวดทรมานมาก หรือปวดจนรบกวนการนอน การรักษา การนวดรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย (นวดแผนไทย, นวดกดจุด, นวดแก้อาการ) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี และเกิดผลข้างเคียงน้อย โดยหากมีการประคบความร้อนหรือประคบสมุนไพร และผู้ป่วยมีการปรับพฤติกรรม ยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการรักษา จะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้ประสิทธิภาพการรักษาดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาอื่น ๆ ได้แก่ การทำกายภาพบำบัด, ฝังเข็ม, ใช้ยา (ยาทาภายนอก, ยารับประทาน), ฉีดยา, ออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้หลาย ๆ คนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการ work from home, การทำงาน online, ประชุม online หรืออื่น ๆ ซึ่งโดยภาพรวมจะมีระยะเวลาการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้น ใช้สายตามากขึ้น มีความเครียดมากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ง่ายขึ้น ทุกคนจึงควรหันมาดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันการเกิดโรค และรักษาสุขภาพของตนเองให้สมบูรณ์แข็งแรง หากใครที่มีอาการปวดเรื้อรังและเริ่มปวดมากขึ้นแล้วก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน และควรหาวิธีการรักษาเพื่อให้อาการดังกล่าวดีขึ้น ทีมแพทย์แผนไทยของเราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับอาการของแต่ละบุคคล👉 ดูรายละเอียดค่าบริการทั้งหมดได้ที่นี่

อ่านต่อ »

การดูแลมารดาหลังคลอด

หลังจากคุณแม่ผ่านการตั้งครรภ์ และคลอดบุตรแล้ว สรีระร่างกายภายนอก และสมดุลธาตุภายในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่เราก็สามารถที่จะดูแลและฟื้นฟูร่างกายได้ด้วยวิธีการต่างๆมากมาย ซึ่งที่คลินิกอุ่นเรือนแพทย์แผนไทยประยุกต์ของเรา มีบริการ “การดูแลมารดาหลังคลอด” หรือการอยู่ไฟ ซึ่งคุณแม่จะได้รับการทำหัตถการหลากหลายอย่าง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์แผนไทยประยุกต์ ได้แก่ การนวดไทยทั่วร่างกาย นวดกระตุ้นน้ำนม ประคบสมุนไพร นวดโกยท้อง ทับหม้อเกลือ อบไอน้ำสมุนไพร ประโยชน์ของการดูแลหลังคลอดด้วยศาสตร์กาารแพทย์แผนไทย 1. ช่วยขับน้ำคาวปลา 2. ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น 3. ลดอาการหนาวสะท้าน 4. กระตุ้นการไหลของน้ำนม ลดอาการคัดตึงเต้านม 5. บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์จนกระทั่งหลังคลอดบุตร 6. กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต 7. ปรับสมดุลธาตุภายในร่างกาย Q&A Q : อยู่ไฟต้องทำหลังจากคลอดบุตรกี่วันคะ? A : ในสมัยโบราณการอยู่ในเรือนไฟสามารถทำได้ทันทีหลังจากมารดาคลอดบุตร แต่ในปัจจุบันนี้สำหรับคุณแม่ที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ เราจะให้การดูแลหลังจากคุณแม่คลอดบุตรไปแล้ว 7 วัน และสำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอด เราจะเริ่มให้การดูแลหลังจากคุณแม่คลอดบุตรไปแล้ว 45 วัน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่ และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณแม่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คุณแม่ควรได้รับการตรวจร่างกายหลังคลอดจากแพทย์แผนปัจจุบันมาก่อน อย่างไรก็ตามแพทย์แผนไทยประยุกต์จะต้องทำการตรวจร่างกายคุณแม่ทุกรายก่อนทำหัตถการอยู่แล้วค่ะ ทั้งนี้ นอกจากการตรวจร่างกายหลังคลอดจากแพทย์แผนปัจจุบัน และการช่วยดูแลฟื้นฟูร่างกายจากแพทย์แผนไทยประยุกต์แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวของคุณแม่เองที่ต้องดูแลร่างกายในอีกหลายๆเรื่อง เช่น การรับประทานอาหาร การพักผ่อน การหลีกเลี่ยงภาวะความเครียดหรือความกังวลต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลถึงน้ำนมได้ทั้งสิ้น ดังนั้นหากคุณแม่มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ย่อมส่งผลให้มีปริมาณน้ำนมเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยไปด้วย เกร็ดความรู้ ว่าด้วยเรื่องของน้ำนม ตามคัมภัร์ปฐมจินดา (คัมภีร์แพทย์แผนไทยที่กล่าวถึงเรื่องของมารดาและทารก) ตอนหนึ่งในคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องของน้ำนมไว้ว่า “ถ้าแพทย์จะพิจารณาดูน้ำนมดีและร้ายนั้น ให้เอาใส่ขันแล้วให้แม่นมนั้นมองดู ถ้าสีและน้ำนมขาว ดังสีสังข์และจมลงในขัน สัณฐานเหมือนดังลูกบัวเกราะ นมอย่างนี้ จัดเอาเป็นน้ำนมอย่างเอก ถ้าหล่อน้ำนมลง และน้ำนมนั้นกระจาย แต่ว่าขันจมลงถึงกันขันแค่ไม่กลมเข้า น้ำนมอย่างนี้ จึงเอาเป็นน้ำนมอย่างโท ถ้าพ้นจากน้ำนม ๒ ประการนี้แล้ว ถึงจะมีลักษณะประกอบไปด้วยยศ ศักดิ์ ชาติตระกูลปานใดก็ดี ถ้ามีกุศลหนหลังยังติดตามบำรุงรักษา ไม่ให้เกิดโรคาพยาธิ รสน้ำนมนั้นเปรี้ยว ขม, ฝาด,จืด,จาง, และมีกลิ่นอันคาวนั้น ก็จัดเป็นน้ำนมโทษทั้งสิ้น” จากข้อความในคัมภีร์ปฐมจินดา กล่าวโดยสรุปได้ว่า ลักษณะน้ำนมที่ดี เมื่อหยดลงน้ำแล้ว น้ำนมจะมีลักษณะดังนี้    1.  น้ำนมสีขาว ดังสีสังข์ จมลงในขัน สัณฐานดังลูกบัวเกราะ จัดเป็นน้ำนมเอก    2.  น้ำนมกระจาย แต่ว่าข้น จมถึงก้นขัน แต่ไม่กลมเข้า จัดเป็นน้ำนมโท      ลักษณะน้ำนมโทษ : มีรสเปรี้ยว, ขม, ฝาด, จืด ลักษณะจาง มีกลิ่นคาว #ลองไปทดสอบกันดูนะคะว่าน้ำนมของคุณแม่มีลักษณะเป็นอย่างไรกันบ้าง#สนใจดูแลหลังคลอดแบบครบวงจรตามศาสตร์แผนไทยประยุกต์  สามารถดูรายละเอียดแพ็กเกจและค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ 👉 ค่าบริการดูแลหลังคลอด

อ่านต่อ »

การอบไอน้ำสมุนไพร

การอบไอน้ำสมุนไพร เป็นภูมิปัญญาไทยที่ถ่ายทอดกันมาอย่างช้านาน สามารถใช้เป็นการรักษาหลัก การรักษาร่วมกับหัตถการทางการแพทย์แผนไทยอื่นๆ หรือใช้เพื่อสร้างเสริมสุขภาพก็ได้ โดยส่วนมากจะใช้ในการรักษาหรือบรรเทาอาการในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทางเดินหายใจไม่โล่ง และใช้เป็นกระบวนการหนึ่งในการอยู่ไฟของมารดาหลังคลอด ไม่เพียงแต่ผู้ป่วยเท่านั้น ในคนที่มีสุขภาพดีก็สามารถอบไอน้ำสมุนไพรได้เช่นกัน โดยจะกล่าวถึงประโยชน์และข้อห้ามของการอบไอน้ำสมุนไพร ดังนี้ ประโยชน์ของการอบไอน้ำสมุนไพร คลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อย ขยายหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น บรรเทาอาการเหน็บชา ชาตามปลายมือปลายเท้า ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น บรรเทาอาการคัดจมูกจากภูมิแพ้ได้ บรรเทาอาการหอบหืดเรื้อรัง ขับน้ำคาวปลาในมารดาหลังคลอด ลดความเครียด ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย การอบไอน้ำสมุนไพรมีการศึกษาวิจัยว่าสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยและช่วยการไหลเวียนเลือดได้จริง 👉 Thai Herbal Steams & Soaks – Thai Healing Alliance (PDF) ข้อห้ามสำหรับการอบไอน้ำสมุนไพร มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส เพราะอาจมีการติดเชื้อโรคต่างๆ มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคลมชัก โรคหอบหืดระยะรุนแรง โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่รุนแรง โรคติดต่อร้ายแรงทุกชนิด มีการอักเสบจากบาดแผลต่างๆ สตรีขณะมีประจำเดือนร่วมกับมีอาการไข้ และปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อดนอน อดอาหาร หรือหลังรับประทานอาหารใหม่ๆ ปวดศีรษะชนิดรุนแรง คลื่นไส้

อ่านต่อ »

การเผายา

การเผายา เป็นศาสตร์การแพทย์พื้นบ้านล้านนา ที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เป็นการนำสมุนไพรหลากหลายชนิดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหย ฤทธิ์ร้อน ช่วยลดอาการปวดเมื่อย มาสับรวมกันผสมกับเกลือเล็กน้อย วางไว้บนหน้าท้องและใช้ผ้าหมาดทำเป็นวงวางล้อมรอบสมุนไพร ใช้ผ้าหมาดคลุมทับอีกครั้งหนึ่ง พ่นแอลกอฮอล์พอประมาณและจุดไฟเผา ในขณะที่เผายาความร้อนจะค่อยๆถ่ายเทลงสู่สมุนไพรด้านล่าง และจะอุ่นลงไปบนหน้าท้องของคนไข้ นอกจากนี้การเผายาสามารถทำบริเวณกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ด้วย เช่น กล้ามเนื้อบ่า หลัง ขา หัวเข่า  เป็นต้น ประโยชน์ของการเผายา  ช่วยบรรเทาอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก สะบัดร้อน สะท้านหนาว ปรับสมดุลธาตุในร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ภูมิแพ้ หอบหืด ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการเผายา ? มีไข้ ปวดศีรษะ ตัวร้อน ร้อนใน มีประจำเดือน อ่อนเพลียจากการตากแดด หอบเหนื่อย มีแผลผ่าตัด ผิวหนังอักเสบรุนแรง หรือมีแผลพุพองง่าย ความดันโลหิตสูง เมื่อเผายาเสร็จแล้ว ไม่ควรอาบน้ำทันที และควรงดการรับประทานอาหารฤทธิ์เย็น เช่น แตงโม น้ำเย็น เพราะความเย็นจะเข้ามากระทบทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก การเผายาที่ทำไปจะไม่ได้ผล

อ่านต่อ »

การนวดไทยแบบราชสำนัก

การนวดไทยแบบราชสำนัก เป็นศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่สืบทอดมาจากแพทย์แผนไทยในอดีต ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้กับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ โดยแพทย์ผู้ให้การบำบัดจะใช้เฉพาะนิ้วมือและฝ่ามือในการนวด แขนเหยียดตรงเพื่อให้น้ำหนักถูกถ่ายเทไปยังนิ้วหัวแม่มือ มีการกดนวดไปตามแนวเส้นพื้นฐาน และจุดสัญญาณตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ผู้นวดจะมีองศาและท่าทางการนวดที่สุภาพ เหมาะสม และปลอดภัย โดยการนวดไทยแบบราชสำนักนี้สามารถใช้ได้กับทั้งการนวดรักษา(นวดแก้อาการ) และนวดผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่แพทย์แผนไทยประยุกต์จะทำหัตถการต่างๆ จำเป็นต้องมีการซักประวัติ และตรวจร่างกาย เพื่อหาสาเหตุของการเกิดโรค และทำการรักษาให้ตรงจุด เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายหรือสร้างเสริมสุขภาพ ก็ควรจะมีการซักประวัติในเบื้องต้นเพื่อประเมินสิ่งที่ต้องระวัง หรือความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างที่ทำหัตถการเช่นกัน การนวดไทยแบบราชสำนัก สามารถใช้นวดรักษา นวดแก้อาการ หรือบรรเทาอาการของกลุ่มโรคใดได้บ้าง และที่กล่าวมานี้ไม่ใช่โรคหรืออาการทั้งหมดที่ใช้การนวดในการรักษาหรือบรรเทาอาการได้ ยังมีอีกหลายโรค หลายอาการ ที่แพทย์แผนไทยประยุกต์สามารถดูแลและให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยได้

อ่านต่อ »
Scroll to Top